1) ไม่เลือกกิน
วัยรุ่นที่ชอบกินอาหารแบบเลือกมากและเรื่องมาก มักจะได้รับสารอาหารที่ไม่ครบ ทำให้มีสุขภาพไม่แข็งแรงและทำให้ผิวพรรณแห้งกร้าน จึงควรที่จะกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน รวมถึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะการกินอาหารในหมู่หนึ่งจะไม่สามารถทดแทนหมู่อื่นๆได้ เพราะความคิดแบบนี้จะทำให้ขาดสารอาหาร และผิวพรรณของตนจะเป็นตัวฟ้องพฤติกรรมการกินได้ดีที่สุด เพราะลักษณะของคนขาดสารอาหารจะมีผิวหมอง ซีดเซียว และแห้งกร้าน
2) กินให้พอดี
ปริมาณอาหารที่เหมาะสมเพียงพอต่อวันจะไม่ทำให้อ้วนหรือผอมแห้งจนเกินไป จะทำให้มีสัดส่วนที่กำลังดี โดยไม่ต้องวุ่นวายในเรื่องของการไดเอตให้มากนัก การกินอาหารที่พอดี ก็คือเมื่อตัวเรารู้สึกอิ่มนั่นเอง
3) เคี้ยวอย่างละเอียด
การที่ไม่เคี้ยวอย่างละเอียดจะทำให้ปวดท้อง เพราะอาหารไม่ย่อยทำให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนักกว่าเดิม การเคี้ยวอาหารที่ถูกต้องจะต้องเคี้ยวถึง 50 ครั้งต่อคำ เพื่อทำให้ย่อยสะดวก หากทำได้ตามนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องอาหารไม่ย่อย ท้องผูกจนส่งผลให้ผิวเสียง่ายอีกเลย
4) เลือกอาหารที่มีประโยชน์
ทุกวันนี้ผู้ผลิตอาหารมักจะผลิตอาหารที่เน้นความอร่อยเป็นหลัก ในขณะที่เรื่องของคุณค่าทางอาหารหรือสารปรุงแต่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีคนคำนึงถึง มีอาหารหลากหลายชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง และถ้าไม่กินเลยจะดีที่สุด เช่น อาหารหมักๆดองๆ อย่างผลไม้ดอง แหนม เพราะเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และมีสารที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง พวกอาหารที่มีสีแจ็ดๆ ล้วนแต่เป็นอาหารที่เคลือบสีผสมอาหารที่มากเกินไป ก่อให้เกิดการสะสมของสารพิษในระยะยาว หากเลือกอาหารที่มีสีอ่อนๆที่เป็นสีจากพืชผัก เช่น สีเขียวจากใบเตย สีม่วงจากดอกอัญชัน สีเหลืองของขมิ้น เป็นต้น หรือกินอาหารที่ไม่มีสีสันใดๆเลยก็จะดีมาก
5) อย่าปล่อยให้อาหารซีด
เมื่ออาหารถูกอากาศนานๆ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆก็มักจะน้อยลง รวมทั้งยังเสี่ยงต่อเชื้อโรคและแมลงวันที่ทำให้อาหารติดเชื้อ ดังนั้นควรจะกินอาหารที่ปรุงเสร็จทันที
6) อาหารปลอดสารพิษ
ควรเลือกอาหารประเภทปลอดสารพิษ ซึ่งเดียวนี้อาหารประเภทนี้หาซื้อง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องจากปัจจุบันทุกคนหันกลับมาใส่ใจต่อการเลือกกินของที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของตนเองมากขึ้น
7) กินให้ครบทุกมื้อ
วัยรุ่นสมัยนี้มักจะกินอาหารไม่ครบมื้อ เพราะมีความคิดที่ว่าจะต้องมีรูปร่างที่ดี แต่การอดอาหารไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆก็เป็นความคิดที่ผิด หากจะลดความอ้วนก็ให้กินอาหารตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ โดยจะต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ การขาดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งแล้วจะทำให้เสี่ยงต่อโรคกระเพาะอาหาร เพราะเมื่อถึงเวลาที่จะต้องมีอาหารตกถึงท้องแต่กลับไม่มีนั้น น้ำย่อยจะถูกหลั่งออกมาตามปกติ และย่อยอาหาร จึงส่งผลให้เกิดอาหารปวดท้องอยู่ตลอดเวลา และหากลดน้ำหนักโดยวิธีนี้จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่ดีๆ ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพและผิวพรรณเสียไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น